หลังจากสอยตาข่ายได้ในเกมที่ชนะยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม 2-0 เมื่อปี 2021 Malaysia การปะทะกันของแชมป์ถ้วยที่ยุติความแห้งแล้งของถ้วยรางวัล 32 ปีของกัวลาลัมเปอร์ซิตี้และเป็นกัปตันทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของทั้งสอง Malaysia เอฟเอ คัพ และ เอเอฟซี คัพ เปาโล โจซู ไม่ใช่คนแปลกหน้าในการชิมความสําเร็จในการแข่งขันฟุตบอลถ้วย
แต่มิดฟิลด์ตัวรุกที่เกิดในบราซิลเชื่อว่า ASEAN Club Championship ช้อปปี้ คัพ (Shopee Cup™) ซึ่งเป็นการแข่งขันครั้งแรกที่จะได้เห็น 12 สโมสรชั้นนําจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาประชันฝีมือกันเพื่อชิงถ้วยรางวัล ซึ่งจะเป็นความท้าทายใหม่เมื่อเขาเข้าสู่ฤดูกาลที่ 8 ของเขากับสโมสรมาเลเซีย
"มันค่อนข้างดีที่ได้เห็นสโมสรจากประเทศอย่าง Thailand, Indonesia, Vietnam, Singapore และ Philippines เล่นกันเอง ผมคิดว่ามันสําคัญมากที่จะมีทัวร์นาเมนต์แบบนี้ และผมหวังว่าการแข่งขันจะดีขึ้นหลังจากผ่านแต่ละรุ่น" โจซู กล่าว ASEAN United FC."มันเยี่ยมมากที่มีทัวร์นาเมนต์นี้สําหรับภูมิภาคของเรา เพื่อให้เรามีความรู้สึกของการได้เข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ มันเป็นวิธีเดียวที่เราสามารถพัฒนานักเตะที่ดีขึ้นและสิ่งอํานวยความสะดวกของสโมสรที่ดีขึ้นได้ ผมคิดว่าการเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์แบบนี้จะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น" โจซู วัย 35 ปี กล่าวเสริม
KL City เป็นหนึ่งในสองทีมจากมาเลเซียที่แข่งขันในทัวร์นาเมนต์นี้ร่วมกับ Terengganu FC และจะเริ่มแคมเปญในกลุ่ม B ควบคู่ไปกับ Thailandของ Buriram United FC, VietnamCong An Ha Noi FC ของ Cong An Ha Noi Indonesiaบอร์เนียว เอฟซี, คายา เอฟซี ของ Philippines และ Singapore'สิงโตซิตี้กะลาสี.
ขณะที่กลุ่ม A มี ตรังกานู ทีมไทยลีก 1 BG Pathum United FC, Indonesiaของ PSM Makassar, Vietnam's Ðong A Thanh Hoa FC และผู้ชนะสองคนจากรอบคัดเลือกเพลย์ออฟซึ่งมี Young Elephants FC จาก Laos, Cambodiaของ Svay Rieng FC, Kasuka FC ของ Brunei DS และ Myanmarของ Shan United FC."มีคู่ต่อสู้ที่มีคุณภาพสูงอยู่ในนั้น เรารู้ว่า บุรีรัมย์ และ ไลอ้อน ซิตี้ เป็นทีมที่แข็งแกร่ง บอร์เนียวเพิ่งเป็นแชมป์ฤดูกาลปกติ แต่เราก็เป็นทีมที่แข็งแกร่งเช่นกัน ผมหวังว่าเราจะทําผลงานให้ดีที่สุดในลีกและบอลถ้วยในประเทศ และเตรียมพร้อมสําหรับ Shopee Cup และแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเรามีทีมที่ดีที่พร้อมจะเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ทุกประเภท" กัปตันทีมกัวลาลัมเปอร์กล่าว
โจซูหวังว่าความเชี่ยวชาญด้านถ้วยของสโมสรจะช่วยให้พวกเขาแสดงผลงานที่ดีในการแข่งขันชิงแชมป์สโมสรประจําปีครั้งแรก "ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เราเข้ารอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยมาแล้ว 3 ครั้ง ดังนั้นผมคิดว่าเราเป็นทีมที่รู้วิธีจัดการกับความกดดันในสถานการณ์การแข่งขันที่แตกต่างกันในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ถ้าเราร่วมมือกันได้ เราก็ยากที่จะเอาชนะ และได้ผลการแข่งขันที่ดี"
การแสดงที่ดีในการแข่งขันระดับภูมิภาคจะเป็นอีกก้าวหนึ่งในทิศทางที่ถูกต้องสําหรับสโมสรเมืองหลวงที่สร้างกระแสทั้งในระดับประเทศและระดับทวีป "ผมเห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เข้าร่วมในปี 2017 แต่สิ่งที่สําคัญที่สุดคือสโมสรยินดีที่จะพัฒนาและก้าวไปข้างหน้า" โจซู กล่าว
เมื่อพูดถึงการเปลี่ยนแปลงการเซ็นสัญญากับสโมสรมาเลเซียซูเปอร์ลีกเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว "เปลี่ยนชีวิตของเขา" ตามคํากล่าวของ Josue ตอนนี้เขาเป็นตัวแทนของ Malaysia ทีมชาติที่ได้รับสัญชาติมาเลเซียเมื่อปีที่แล้ว
"ทุกอย่างเปลี่ยนไปสําหรับผม และผมรู้สึกขอบคุณ KL City มากที่มีผมอยู่ที่นี่ตลอดเวลา ตอนนี้ฉันสามารถเรียกตัวเองว่ามาเลเซียได้อย่างเต็มที่ มันไม่ใช่แค่เปลี่ยนชีวิตฉัน แต่ยังรวมถึงครอบครัวของฉันด้วย ตอนนี้ฉันสามารถใช้ชีวิตที่เหลือในประเทศนี้ได้แล้ว" Josue กล่าวเสริม
ภาพถ่าย: KL City FC
แชร์เลย
